ที่ เที่ยวร้อยเอ็ด ร้อยเอ็ด น่าจะเป็นเมืองเล็กๆ ขนาดกลางๆ ในภาคอีสาน ที่ไม่ได้มีชื่อเสียงหรือโดดเด่นในด้านแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากเท่าภาคส่วนใหญ่ แต่ความเจ๋งของ Royette อยู่ที่การเคลื่อนพิกัดระหว่างทางเพื่อสร้างประโยชน์ระหว่างทาง วัดหลายแห่งก็น่าสนใจไม่แพ้วัดอื่นๆ เมืองภาคอีสาน อีกหนึ่งสถานที่ห้ามพลาดในภาคอีสานหากมีผู้มีบุญต้องการมากราบไหว้ขอพร เที่ยวร้อยเอ็ด เที่ยวอีสาน พักร้อน คลายร้อน ชมวัดสวยแดนอีสาน บรรยากาศ ร้านอาหาร คาเฟ่ ของคนร้อยเอ็ด เผ็ดจนต้องบอกต่อ เที่ยวโตไก ที่เที่ยวร้อยเอ็ด ที่เด็ดสุด อีสาน เมืองร้อยเอ็ดมาแรงตามกระแสเพื่อน สถานที่ห้ามพลาด ไฮไลท์ของ จ.ร้อยเอ็ด ที่เที่ยวที่ได้ทั้งทัศนียภาพที่สวยงาม หอประชุมใหญ่ เจดีย์และน้ำตกธรรมชาติที่สวยที่สุดในประเทศไทย รวมชาวร้อยเอ็ด ใจดี น่ารัก ร้อยเอ็ดน่าเที่ยว
ที่ เที่ยวร้อยเอ็ด น่าไป
- หอโหวด 101
เป็นแลนด์มาร์คล่าสุดของเมืองร้อยเอ็ดที่เด็ดมาก กับการเป็นหอคอยชมเมืองความสูง 101 เมตร หรือเท่ากับตึก 35 ชั้น ตั้งอยู่ไม่ไกลกับบึงพลาญชัย สร้างโดยใช้รูปแบบของโหวดซึ่งเป็นเครื่องดนตรีพื้นบ้านประจำจังหวัดร้อยเอ็ดมาเป็นหน้าตาภายนอก ที่ชั้นบนสุดเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและองค์พระพุทธรูปประจำเมืองนี้ ชั้นรองลงมายังมีร้านอาหาร หอชมเมือง พิพิธภัณฑ์ สกายวอล์ค และร้านขายของที่ระลึกน่าช้อปมากมาย แวะร้อยเอ็ดเมื่อไหร่ไปจัดเลย ที่ เที่ยวร้อยเอ็ด - บึงพลาญชัย
มาร้อยเอ็ด ต้องไปบึงพลาญชัย ถือเป็นสัญลักษณ์ประจำจังหวัด ที่ใครมาเยือนเมืองร้อยเอ็ดจะต้องแวะ ตั้งอยู่บริเวณใจกลางเมือง ต.ในเมือง อ.เมืองร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งบึงพลาญชัย เป็นบึงน้ำจืดขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ประมาณ 2 แสนตารางเมตร สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2469 โดยผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดคนที่ 3 พระยาสุนทรเทพกิจจารักษ์ (ทอง จันทรางศุ) นำชาวบ้าน 4 หมื่นคน ขุดบึง เพื่อเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ในปัจจุบันมีการใช้เป็นสถานที่จัดงานต่างๆ ของจังหวัด และเป็นสวนสาธารณะ ภายในบึงมีเกาะกลางน้ำ เต็มไปสิ่งปลูกสร้างมากมาย ทั้งศาลเจ้าพ่อหลักเมือง, พระพุทธรูปปางลีลา, ภูพลาญชัย, สวนสุขภาพ, สนามเด็กเล่น, น้ำพุดนตรี, พานรัฐธรรมนูญ และนาฬิกาดอกไม้ ชาวร้อยเอ็ดนิยมมาออกกำลังกาย นั่งพักผ่อน ให้อาหารปลา จัดเป็นแลนมาร์คที่ไม่ควรพลาดเลยล่ะ - พระมหาเจดีย์ชัยมงคล
นับเป็นองค์เจดีย์ขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย ด้านในเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ โดยบริเวณทั้งหมดมีเนื้อที่ 101 ไร่ สร้างในรูปแบบที่ใช้ศิลปะองค์พระปฐมเจดีย์ของภาคกลางกับองค์พระธาตุพนมของภาคอีสานมาผสมผสานกัน มีความกว้าง / ยาว / สูง อย่างละ 101 เมตร โดยภายหลังเพิ่มยอดฉัตรทองคำบริเวณยอดเจดีย์ทำให้มีความสูงรวม 109 เมตร ว่ากันว่าการมากราบนมัสการที่นี่ จะให้ผลในด้านหน้าที่การงานเป็นพิเศษเลยจ้า ถึงร้อยเอ็ดแล้วมาต้องมู ที่ เที่ยวร้อยเอ็ด - วัดประชาคมวนาราม
นับเป็นวัดสวยอีกแห่งที่สายบุญไม่ควรพลาด แถมยังเหมาะกับคนที่อยากหาโอกาสไปชมบูโรพุทโธเมืองอินโดฯ ซักครั้ง แต่ยังไปไม่ได้ เพราะนี่คือเจดีย์หินทรายธรรมชาติแห่งแรกของประเทศไทยซึ่งสร้างโดยใช้บูโรพุทโธเป็นต้นแบบ ตัวเจดีย์มีทั้งหมด 7 ชั้น ซึ่งบริเวณกลางองค์เจดีย์ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศอินเดีย บริเวณยอดเจดีย์เป็นทองคำน้ำหนักถึง 101 บาท เป็นอีกพิกัดที่มาเที่ยวก็ได้ มาไหว้พระก็เริ่ดเชียวละ - วัดบูรพาภิราม
มาร้อยเอ็ดทั้งที สายมูตัวจริงต้องไม่พลาดที่จะแวะไปกราบนมัสการองค์พระพุทธรูปปางประทานพรที่สูงที่สุดในประเทศไทย หรือองค์หลวงพ่อใหญ่ซึ่งประดิษฐานอย่างโดดเด่นในวัดนี้ ด้วยความสูงรวมถึง 67 เมตร 85 เซนติเมตร ทำให้ที่นี่กลายเป็นพิกัดที่โดดเด่นมองเห็นได้จากอีกหลายมุมของตัวเมือง ที่ฐานองค์พระถูกใช้เป็นพิพิธภัณฑ์และด้านในมีที่ประดิษฐานองค์พระบรมสารีริกธาตุที่ถูกอัญเชิญมาจากประเทศอินเดียให้แวะขอพรกันด้วยนะ เด็ดขนาดนี้ ไม่แวะมาก็เหมือนว่ายังไม่ถึงร้อยเอ็ดอย่างแท้จริง - เจดีย์มหามงคลบัว
มั่นใจว่าสายบุญตัวจริงทั้งหลาย ต้องไม่มีใครไม่รู้จักหลวงตามหาบัวแห่งวัดป่าบ้านตาด และเจดีย์นี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่หลวงตามหาบัว เพื่อใช้เป็นสถานที่เผยแพร่ธรรมะและใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ตัวเจดีย์แบ่งออกเป็น 4 ชั้น ทำหน้าที่คล้ายพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อม รวบรวมเรื่องราวของเพลงพื้นบ้านอีสาน หนังสือธรรมะ และรูปเหมือนของเกจิอาจารย์ชื่อดังมากมาย นับเป็นแลนด์มาร์คอีกแห่งที่ต้องแวะไปไหว้เมื่อไปถึงเมืองนี้เลยทีเดียว - น้ำตกถ้ำโสดา
ความ unseen ของน้ำตกถ้ำโสดา คือการเป็นน้ำตกที่ไม่ได้มีไว้เพื่อให้เราได้แวะมาชมความสวยหรือลงเล่นน้ำเหมือนน้ำตกทั่วไปเท่านั้น แต่ยังมีความอัศจรรย์ของเจดีย์หินที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ นอกจากนั้นยังเป็นน้ำตกที่เราสามารถเดินชมได้ทั้งจากด้านหน้าและด้านในน้ำตกด้วยจ้า เพราะด้านหลังน้ำตกจะมีชะง่อนหินผาลักษณะคล้ายถ้ำให้เดินเข้าไปได้ ภายในยังเป็นที่ประดิษฐานองค์พระพุทธรูปศากยมุนีโคดมให้คนไปเที่ยวได้แวะกราบกันอีกด้วยนะ ได้ชมน้ำตกสวยๆ แถมยังได้ไหว้พระในที่เดียวกัน มันเริ่ดจะตาย - ปรางค์กู่
ปรางค์กู่หรือปราสาทหนองกู่ ในอำเภอธวัชบุรี ของจังหวัดนี้นั้น เป็นโบราณสถานในสไตล์ขอม ซึ่งเชื่อกันว่าเคยทำหน้าที่เป็นอโรคยาศาลและเป็นศาสนสถาน โดยสันนิษฐานว่าถูกสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ซึ่งเป็นผู้บูรณะนครธมอันยิ่งใหญ่ และสร้างปราสาทบายนอันแสนจะน่าอัศจรรย์ในประเทศกัมพูชา แม้ในปัจจุบันปรางค์กู่จะทรุดโทรมลงไปตามเวลา แต่ก็ยังมีโบราณวัตถุอีกหลายชิ้นจัดแสดงให้ชมกัน โดยบางส่วนนั้นถูกนำไปจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ร้อยเอ็ดแล้วจ้า ด้านในมีองค์พระให้แวะกราบขอพรกันได้ด้วยนะ รับรองว่ายังไม่หลุดคอนเซ็ปท์เที่ยวแบบฉบับสายมูแน่นอน - วัดป่าโนนสวรรค์
สำหรับสายบุญหรือสายมูที่มีความสุขกับการได้เดินดูดีเทลแปลกตาในวัดที่ไป บอกเลยว่าพลาดวัดนี้ไม่ได้ด้วยประการทั้งปวงเลยจ้า เพราะด้านในตัววัดแห่งนี้เต็มไปด้วยประติมากรรมปูนปั้นหลากหลายหน้าตา ทั้งที่มาจากพุทธประวัติ วรรณคดีไทย หรือจำลองแบบมาจากวัฒนธรรมและประเพณีในท้องถิ่น นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีชื่อเรียกว่าวัดหม้อดินด้วยนะ เพราะหลายมุมของวัดมีการนำหม้อดินซึ่งเป็นสินค้าของชาวบ้านมาประดับตกแต่งไว้มากมาย ได้ไหว้พระท่ามกลางบรรยากาศแปลกตา รับรองว่าเพลินชัวร์ ที่ เที่ยวร้อยเอ็ด